top of page

DIGITAL MAGAZINE FOR DOG LOVERS

DOG DOMPANY

นิตยสารกึ่งรายการโทรทัศน์เพื่อคนรักสุนัข

เปิดกรุขุมกำลังพ่อพันธุ์ประจำซุ้มเอสพี

 

สุนัขสายพันธุ์บูลลี่ เป็นสุนัขที่มีรูปร่างแข็งแกร่งบึกบึน หน้าตาออกจะดูโหดๆ แต่ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า เจ้าบูลลี่นิสัยมันไม่โหดเหมือนหน้าตาเลยครับ เจอมากี่ตัวกี่ตัว นิสัยมันช่างขี้เล่นขี้อ้อน แต่ก็มีพลังมหาศาล กระโดดใส่เราแต่ละครั้งแทบจะล้มทั้งยืน Cover Story ในฉบับปฐมฤกษ์ เราได้นำเรื่องราวแบบเจาะลึกของฟาร์มสุนัขสายพันธุ์บูลลี่ชั้นนำของประเทศไทยฟาร์มหนึ่งมาฝากเพื่อนๆชาว Dog Company และฟาร์มนี้ก็คือ SP Bully Camp

 

ถ้าถามคนที่เลี้ยงและหลงเสน่ห์ของสุนัขสายพันธุ์บูลลี่ ผมเชื่อว่า น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก ฟาร์มสุนัข Sp Bully Camp ด้วยคุณภาพและความสวยของสุนัขในฟาร์ม ทั้งยังมี “พี่หมู” หรือ “คุณสมโภชน์ เขียวแก้ว” เจ้าของฟาร์ม SP Bully Camp เป็นผู้ดูแล ไม่ว่าใครเมื่อได้พบได้พูดคุยกับพี่หมู จะรู้ได้ว่า พี่หมูเป็นคนที่มีอัธยาศัยดีมาก คอยดูแลเอาใจใส่ในสิ่งต่างๆเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแขกที่มาเยี่ยมเยียนฟาร์ม SP Bully Camp  จึงไม่ใช่เรื่องยากที่ SP Bully Camp จะเป็นฟาร์มบูลลี่อันดับต้นๆ ที่หลายๆ คนนึกถึงเสมอในเวลาที่ถึงนึกสุนัขสายพันธุ์นี้

 

พี่หมูเล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่ชื่นชอบสุนัขสายพันธุ์บูลลี่ นั้นก็เพราะลักษณะพิเศษที่ดูบุคลิกแล้วเป็นสุนัขที่ดูบึกบึนแข็งแรงหน้าตาดุดันแต่มีนิสัยขี้เล่น ไม่ก้าวร้าวกับคน  หากเลี้ยงก็จะหลงเสน่ห์สุนัขสายพันธุ์นี้ แต่เดิมนั้นพี่หมูได้เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์อื่นมาก่อนหลายสายพันธุ์เช่น Doberman, บางแก้ว และไทยหลังอาน  และก็ได้เห็นเพื่อนๆ นิยมเลี้ยง American Pitbull จึงเริ่มเลี้ยง American Pitbull มาก่อน ซึ่งสุนัขสายพันธุ์ American Pitbull เป็นต้นกำเนิดของสุนัขสายพันธุ์บูลลี่ในตอนนั้นยังไม่ได้เป็น American Bully  แต่มีการพัฒนาสายพันธุ์มาเรื่อยๆ จนเริ่มมีสุนัขสายพันธุ์บูลลี่ พี่หมูจึงเริ่มหันมาเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์บูลลี่ ในช่วงแรกนั้นเริ่มเลี้ยงตัวเดียวก่อน โดยซื้อสุนัขบูลลี่จากเพื่อนที่สนิทกันมาในราคาเพียง 5,000 บาท  แล้วก็เลี้ยงเพียงตัวเดียวมาเรื่อยๆ จนโต พี่หมูจึงต้องการหาสุนัขมาอยู่เป็นเพื่อนมัน  ก็เลยไปซื้อตัวเมียอีกตัวมาเลี้ยง เวลาผ่านไประยะหนึ่ง เพื่อนๆ ก็อยากที่จะได้ลูกของเจ้าสุนัข Bully ไปเลี้ยง  จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่พี่หมูเริ่มเพาะพันธุ์ Bully จากนั้นเป็นต้นมา

 

พี่หมูได้เลี้ยงเจ้าสุนัขพันธุ์บูลลี่มาเรื่อยๆ จนเป็นความรู้สึกรักและผูกพัน รวมทั้งความชื่นชอบในนิสัยของของเจ้าสุนัขสายพันธุ์นี้  ประกอบกับได้มีโอกาสรู้จักกับพี่คนหนึ่ง คือ “พี่ไพโรจน์ ธารารัตน์” ซึ่งเป็นเป็นพี่ที่คอยให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำทั้งเรื่องการดูและการเลือกซื้อสุนัขจากต่างประเทศ บูลลี่ในสไตล์ที่พี่หมูชื่นชอบคือแนวเตี้ยล่ำ โดยพี่ไพโรจน์จะคอยจัดหาและดูแลการจัดซื้อให้  ซึ่งทำให้พี่หมูได้สุนัขสายใหม่ๆ เข้ามาเพื่อพัฒนาสายพันธุ์บูลลี่ในฟาร์มให้มีความสวยงามและหลากหลายมากยิ่งขึ้น เมื่อพี่หมูเริ่มเพาะพันธุ์มาเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่ง พี่หมูได้ปรึกษากับพี่ไพโรจน์ ถึงเรื่องที่จะเปิดฟาร์ม Bully อย่างเป็นทางการ และให้พี่ไพโรจน์ช่วยตั้งชื่อฟาร์มให้ จึงได้ชื่อเป็น SP BULLY CAMP โดยคำว่า S.P. เป็นคำย่อที่ไม่ได้ซับซ้อนอย่างใดเป็นชื่อของพี่หมูเอง คือ “สมโภชน์”

 

เริ่มแรกที่ทำฟาร์มนั้นพี่หมูอาศัยอยู่บ้าน Town House เนื้อที่ประมาณ 18 ตารางวา เลี้ยงสุนัขไว้หลังบ้าน พอเริ่มเพาะก็จะแบ่งลูกสุนัขให้เพื่อนๆไปเลี้ยง และก็พยายามมองหาบ้านที่มีพื้นที่กว้างกว่านี้ ซึ่งในตอนนั้นพี่ได้หลงรักและชื่นชอบสุนัขสายพันธุ์นี้อย่างจิงจังแล้ว พี่หมูจึงพยายามหาพื้นที่ที่กว้างขวางเพื่อความสะดวกในการเลี้ยงเจ้า 4 ขา  จนในที่สุดก็มาได้ที่ในปัจจุบันมีพื้นที่ประมาณไร่กว่าๆ จึงสร้างบ้านสำหรับอยู่อาศัยสร้างและบ้านสำหรับสุนัขด้วย ซึ่งอยู่ในส่วนของหลังบ้าน หากนับเวลาที่พี่หมูได้เลี้ยงสุนัขมาจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลา 20 ปีแล้ว 

 

สำหรับพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ที่ฟาร์มของฟาร์ม SP ส่วนใหญ่เป็นสุนัขนำเข้า โดยมีพ่อพันธุ์ทั้งหมด 4 ตัว  และแม่พันธุ์เป็นสุนัขนำเข้ามา 2 ตัว และเป็นสุนัขที่ทางฟาร์มเพาะพันธุ์ขึ้นมาเอง 2 ตัว

 

พ่อพันธุ์ของฟาร์ม SP ทั้ง 4 ตัวนั้นซึ่งเป็นสุนัขนำเข้าทั้งหมด 

ตัวแรกมีชื่อว่า Konflic เป็นลูกของพ่อสุนัขตัวที่ดังที่สุดอยู่ในอเมริกาตอนนี้ชื่อ Masceello เป็นสายเลือดของทาง King Pin และแม่ก็คือ Hennessy  สาเหตุที่นำเข้าเจ้า Konflic มานั้นเป็นเพราะชอบในสายเลือดและโครงสร้างหน้าตา และเป็นสุนัขที่ไม่ขี้กลัวและมีนิสัยขี้เล่น

 

พ่อพันธุ์ตัวที่ 2 ชื่อ Lyngh Khun  เป็นสุนัขที่นำเข้ามาจากเมริกา ตัวนี้เป็น Mike Land แท้ๆ เจ้าของเดิมได้ทำการผสม In Breed เป็นสายเลือดที่แน่นมากๆ  พ่อของ Lyngh นั้นชื่อ Captain Spaulding และแม่ชื่อ Blue Magic ซึ่งตอนที่พี่หมูเห็นเจ้า Lyngh ตอนเล็กๆ ก็รู้สึกชอบมากจึงได้ให้พี่ไพโรจน์คอยตามให้ พอโตได้สักหน่อยก็ให้พี่ไพโรจน์นั้นติดต่อนำเข้ามาให้ สำหรับตัวนี้นำเข้ามาเพราะชอบใน Body ของมัน ซึ่งจะมีขนาดเล็กกว่าเจ้า Conflic เป็นแนว Pocket แต่กระดูกของมันรวมถึงกระดูกของศีรษะไม่เล็กเลย และมีนิสัยไม่ก้าวร้าวครับ

 

พ่อพันธุ์ตัวที่ 3 ชื่อว่า Blue Devil ได้นำเข้ามาประมาณปีกว่าๆ สำหรับสไตล์จะคล้ายกับสุนัขพ่อพันธุ์ตัวแรก Konflic มีสายเลือดใกล้เคียงกัน เจ้า Blue Devil นั้นเป็นสายลูกของพ่อพันธุ์ Blue Daimon และแม่พันธุ์ Yoko-Ono  ชุดนี้ถูกบรีดมาจนสายเลือดแน่นเช่นกัน  ทั้งพ่อและแม่ของ Blue Devil นั้นเป็นลูกของ Miagi ที่โด่งดังอยู่ในตอนนี้ครับ

 

ส่วนพ่อพันธุ์ตัวสุดท้ายคือ Laven เป็นสุนัขที่นำเข้ามาตั้งแต่ยังเล็กๆ อายุ 3 เดือน เลี้ยงมาตอนนี้ 1 ปีได้แล้ว ซึ่งเจ้าตัวนี้เป็นลูกของพ่อพันธุ์ชื่อ Dax และ แม่พันธุ์ชื่อ Color

 

และแม่พันธุ์ของฟาร์ม SP Bully Camp มีด้วยกันทั้งหมด 4 ตัว ตัวแรกนั้นชื่อ Faith เป็นสุนัขสายสาย Mike Land  แม่พันธุ์ตัวที่ 2 เป็นสีขาวชื่อ Ice Hotty เป็นลูกของ Cashpot และ Kenya ส่วน 2 ตัวที่เหลือเป็นสุนัขที่ทางฟาร์มได้เพาะพันธุ์ขึ้นมาเอง ตัวแรกชื่อ Eve เป็นลูกของ Konflic และตัวที่ 2 ชื่อ Laynessy เป็นลูกของ Tombstone และ Faith แต่ตอนนี้ Tomstone ได้เสียชีวิตไปแล้ว

 

สิ่งสำคัญสำหรับผู้รักสุนัขสายพันธุ์บูลลี่ต้องทำความเข้าใจคือ

 

1. สายพันธุ์ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกซื้อสุนัข และเชื่อมั่นในสายเลือด

2. การเลี้ยงดูให้อาหารเป็นเวลาและใช้อาหารที่มีคุณภาพ

3. สถานที่ต้องมีสถานที่ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

4. การเอาใจใส่ดูแลสำหรับผู้เลี้ยงสุนัขทุกสายพันธุ์เมื่อตัดสินใจนำเขามาเลี้ยงแล้วต้องดูแลและให้ความรักเหมือนกันทุกสายพันธุ์ ถ้าไม่สามารถดูแลเอาใจใส่มันได้ก็ไม่ควรนำมันมาเลี้ยง

 

การเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์บูลลี่นั้นจะต้องศึกษามันให้ดีก่อนนำมาเลี้ยง ว่านิสัยของมันเป็นอย่างไร พ่อแม่ของมันเป็นอย่างไร เตรียมสถานที่ให้พร้อม และที่สำคัญสุนัขสายพันธุ์บูลลี่เมื่ออายุประมาน 6 เดือนถึงหนึ่งขวบ จะเป็นช่วงช่วงยืดตัวและจะมีน่าตาและรูปร่างที่ไม่สวยงามผู้เลี้ยงจะต้องอดทนรอและพยายามดูแล เชื่อมั่นในสายพันธุ์ที่เลือกมา เพราะเมื่อผ่านช่วงยืดไปแล้ว บูลลี่จะมีลักษณะที่สวยงามตามสายพันธุ์พ่อแม่ที่เราได้เลือกมา เพราะฉะนั้นผู้ที่ต้องการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้จะต้องมีความอดทนและทำความเข้าใจในตัวสุนัขก่อนนำมันมาเลี้ยง

สำหรับลูกสุนัขของทางฟาร์มจะต้องติดตามข่าวสารผ่านทางเฟสบุ๊คเพราะทางฟาร์มจะเพาะพันธุ์สุนัขเมื่อสุนัขพร้อมและสมบูรณ์เท่านั้นจึงทำให้ทางฟาร์มไม่ได้มีสุนัขจำหน่ายตลอดเวลา  ราคาลูกสุนัขของทางฟาร์มจะเริ่มต้นที่ ตัวละ 50,000 บาทเป็นต้นไป ส่วนพ่อพันธุ์ของทางฟาร์มจะเปิดรับผสมที่ราคา 50,000-80,000 บาท

และนี่ก็คือเรื่องราวของ SP Bully Camp หากมีข้อสงสัยหรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ โทร 089- 811-6208 , 089-216-5432 หรือติดตามข่าวสารจากทางฟาร์มได้ที่ face book : spbully camp 

 

bottom of page