top of page

DIGITAL MAGAZINE FOR DOG LOVERS

DOG DOMPANY

นิตยสารกึ่งรายการโทรทัศน์เพื่อคนรักสุนัข

France Bulldog คุณภาพภายใต้นามราชาวานร “กอริวล่าบูลเลอร์”

 

 

ผ่านการทำงานผลิตสื่อเพื่อคนรักสุนัขมาจนถึงฉบับที่ 3 การหาข้อมูลฟาร์มสุนัขคุณภาพมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่น่าภูมิใจมากที่ในประเทศของเรามีฟาร์มสุนัขที่มีคุณภาพมากมาย ยิ่งทางทีมงานค้นคว้าหาข้อมูลลงลึกไปมากเท่าไหร่  ยิ่งเจอฟาร์มสุนัขที่มีคุณภาพมากขึ้นเท่านั้น ทำให้เรามั่นใจว่าจะมีข้อมูลดีๆ ภาพสวยๆ บทสัมภาษณ์โดยตรงจากเจ้าของฟาร์มสุนัขคุณภาพ เพื่อมานำเสนอแก่เพื่อนๆ ชาว DOG COMPANY อย่างต่อเนื่อง สำหรับเรื่องราวของ Cover Story ในฉบับที่ 3  ทางทีมงานของเราไปสะดุดกับชื่อฟาร์มสุนัขฟาร์มหนึ่งที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และมีความแปลกไม่เหมือนใครนั่นคือฟาร์มสุนัข “กอริวล่า บูลเลอร์ (Gorillabuller)” และเมื่อติดตามข้อมูลเข้าไปจึงพบว่า “กอริวล่า บูลเลอร์”  เป็นฟาร์มสุนัข “เฟรนซ์ บูลด๊อก” ที่มีสุนัขเฟรนซ์บูลด๊อกสวยงามระดับแชมป์มากมายเลยทีเดียว ทางทีมงานจึงไม่รอช้าติดต่อเพื่อขอข้อมูล และขอสัมภาษณ์เพื่อถ่ายทำรายการในทันที โดยเจ้าของฟาร์มกอริวล่าบูลเลอร์ คือ  “คุณจุฑาวุธ อธิจักราวุธ” หรือ “พี่จี๊ป”

“คุณจุฑาวุธ อธิจักราวุธ” หรือ “พี่จี๊ป” ได้เล่าให้เราฟังว่า พี่จี๊ปมีความชื่นชอบในลิงกอลิล่าอย่างมากมาตั้งแต่เด็กๆ ลิง กอริวล่าเป็นลิงที่มีความยิ่งใหญ่ในตัวเอง มีความสง่างาม และมีความนุ่มนวลแฝงอยู่ในความแข็งแกร่ง เหมือนกับมนุษย์ที่มีทั้งด้านที่แข็งแกร่งและด้านที่อ่อนโยนอยู่ในตัวเอง ไม่ว่าพี่จี๊ปจะทำงานอะไร ก็จะตั้งชื่อเป็น กอริวล่าทั้งหมด ไม่ว่าจะทำธุรกิจนำเข้า ก็ชื่อ “กอริวล่า เทรดดิ้ง” หรือทำธุรกิจของเล่นก็ชื่อ “กอริวล่า ทอยส์” หรืออะไรก็แล้วแต่ก็จะมีกอลิล่ามาเกี่ยวข้องเสมอ 

 

เรื่องราวจุดเริ่มต้นของฟาร์มมีอยู่ว่า เมื่อประมาณเกือบสิบปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้พี่จี๊ปได้นำเข้าปลาอโรวาน่าและได้ไปออกบูธในงาน PET EXPO ที่ศูนย์สิริกิติ์ ก็มีผู้หญิงคนนึงอุ้มสุนัขเฟรนซ์บูลด็อก 2 ตัว มาเดินขายในงาน ด้วยความที่พี่จี๊ปเห็นสุนัขเฟรนซ์บูลด๊อกแล้วมันโดนใจจึงถามเขาไปว่า  

พี่จี๊ป : “พี่ให้ผมช่วยดูแลมั้ยพี่ พี่จะได้ไม่ต้องอุ้ม”

ผู้หญิงคนนั้นก็ตอบมาว่า

เจ้าของสุนัข :  “น้องดูแลให้พี่สองตัวเลยเลยแล้วกันเดี๋ยวพี่ไปเดินหาลูกค้าแปบนึง” 

ผมฟังพี่จี๊ปเล่าไปก็ขำๆ พี่จี๊ปบอกว่า พอรับฝากดูแล ตอนนั้นปลาในบูธนี่ไม่ต้องขายกันเลยทีเดียวเลี้ยงหมาอย่างเดียว ก็คนมันชอบนี่ทำไงได้ นั่งเลี้ยงหมาทั้งวันก็ยังได้ แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้ไปนานเลย แปบเดียวเท่านั่น เขาก็มาเอาไปตัวนึงบอกว่าขายได้แล้ว และก็บอกกับพี่จี๊ปว่า 

 

เจ้าของสุนัข :  “พี่ขายได้แล้วนะเดี๋ยวพี่เดินไปหาลูกค้าอีกนะฝากด้วยนะคะ”

 

และเขาก็เดินไปหาลูกค้า ในเวลาไม่นานผู้หญิงคนนั้นก็มาเอาอีกตัวไปขาย ซึ่งมันเร็วมากพี่จี๊ป บอกว่าในตอนนั้นพี่จี๊ปประหลาดใจและงงมากที่มันสามารถขายได้เร็วขนาดนั้น จึงถามไปว่า “พี่ขายตัวเท่าไหร่” เขาจึงตอบมาว่า สี่หมื่นห้าพันบาท ยิ่งสร้างความตกใจให้พี่จี๊ป เพราะเมื่อประมาณเกือบสิบปีก่อนหรือตอนนี้ก็ตาม สุนัขราคา สี่หมื่นห้านี่ไม่ใช่ราคาธรรมดาเลย ทั้งยังเป็นการนำมาเดินขายในงาน มันจึงเป็นอะไรที่น่าตกใจมากๆ แต่ตอนนั้นพี่จี๊ปยังไม่ได้คิดที่จะขายหรือทำฟาร์มสุนัข และในวันรุ่งขึ้นที่ออกบูธ ผู้หญิงคนนั้นก็นำสุนัขมาขายอีกครั้ง นำมาอีกสองตัว มาฝากให้พี่จี๊ปเลี้ยงอีกครั้ง (บ๊ะ...ขายดีวุ้ย ความเห็นบอกอ) รอบนี้เขาก็เดินไปแปบนึงแล้วกลับมาเขาก็ขายได้อีกตัวนึงเช่นเคย เหลือตัวสีดำอีกตัวนึง เค้าก็เดินหายไปหนึ่งชั่วโมงกลับมา บอกว่ามีคนสนใจแล้วเขาก็อุ้มเอาตัวสีดำไปให้ลูกค้าดู แปบนึงเขาก็กลับมาบอกว่าสีดำลูกค้าไม่เอา ก็เลยเอากลับมาฝากไว้อีกครั้งแล้วก็ไปเดินหาลูกค้าอีกประมาณหนึ่งชั่วโมง กลับมาอุ้มไปอีกรอบ แล้วลูกค้าก็ไม่เอาสีดำอีกเป็นครั้งที่สอง จึงมาฝากพี่จี๊ปไว้อีกครั้งแล้วเดินหายไปอีกประมาณครึ่งชั่วโมง เค้าก็กลับมาบอกว่าจะอุ้มให้ลูกค้าดูอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พี่จี๊ป บอกว่า “พี่ไม่ต้องเอาไปหรอกเดี๋ยวผมซื้อเอง” นับตั้งแต่นั้นพี่จี๊ปก็มีอีกชีวิตนึงที่ต้องดูแล หลังจากได้เลี้ยงพี่จี๊ปยิ่งรู้สึกถึงความน่ารัก และหลงใหลในสุนัขสายพันธุ์นี้ ตอนนั้นถึงแม้จะเหนื่อยในการดูแล แต่ก็มีความสุขเสมอที่ได้ดูแลเจ้าเฟรนซ์บูลด็อกตัวแรกในชีวิต

 

พี่จี๊ปมีความรู้สึกว่าสุนัขสายพันธุ์นี้มีความคล้ายกับลิงกอริวล่า ทั้งรูปร่างหน้าตา ความกำยำลักษณะนิสัยซึ่งเป็นความรู้สึกที่โดนใจมาตั้งแต่แรกเห็น มีอยู่วันหนึ่งจึงลองนั่งวาดโลโก้เล่นเล่นใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เมื่อวาดเสร็จ มานั่งดูผลงานโลโก้ ก็มีความรู้สึกว่า มันใช่และการทำอะไรที่เรารักเราชอบ มันเป็นอะไรที่ใช่เลย เอาสิ่งที่เราชอบทั้งสองอย่างมาบวกกันจึงเกิดขึ้นมาเป็น “ฟาร์มกอริวล่าบูลเลอร์” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของฟาร์ม นับเวลามาตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ กอริวล่าบูลเลอร์ก็ได้ก่อตั้งมาเป็นเวลา 5 ปีแล้ว

สำหรับพี่จี๊ปแล้วเฟรชน์บูลด๊อกเป็นสุนัขที่ตอบโจทย์ทุกอย่าง เวลาเราเล่นกับเขา เขาจะเล่นกับเราอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน สภาพอากาศเป็นยังไง เพราะฉะนั้นเวลาเราเล่นกับเขาจึงต้องจนเราต้องระวังเรื่องสุขภาพของเขาด้วย และในเวลาที่เราต้องการใครสักคนเขาก็จะเดินเข้ามาหา เป็นสุนัขขี้อ้อน และด้วยรูปร่างที่กำยำยิ่งทำให้เฟรนช์บูลด๊อกเป็นเป็นสุนัขที่ขี้อ้อนได้อย่างน่ารักมากๆ

พี่จี๊ปเล่าว่าเฟรนช์บูลด๊อกในอดีตนั้นไม่เหมือนกับเฟรนช์บูลด๊อกในปัจจุบันเลย เป็นสุนัขมีการพัฒนารวดเร็วมาก ซึ่งเฟรนช์บูลด๊อกเป็นสุนัขที่พัฒนามาสองเส้นทางคือทางยุโรป และทางอเมริกา เฟรนช์บูลด๊อกของฝั่งทางยุโรปก็จะมีความแตกต่างกับทางอเมริกาอย่างชัดเจน ซึ่งเฟรนช์บูลด๊อกของทางยุโรปในอดีตก็จะไม่เหมือนเฟรนช์บูลด๊อกของทางยุโรปในปัจจุบัน และของฝั่งอเมริกาก็เช่นกัน

 

 

เริ่มต้นนั้นเฟรนช์บูลด๊อกเกิดมาจากทางยุโรป ซึ่งแน่นอนว่าเป็นประเทศฝรั่งเศสตามชื่อของมัน และพัฒนาไปเรื่อยๆ ทางอเมริกาก็ได้นำไปพัฒนา ซึ่งทางอเมริกาจะเน้นสุนัขที่สมบูรณ์แบบทันสมัยการเดินสวยงาม หน้าตาน่ารัก รูปร่างที่เล็กลง กระดูกเล็กลง แต่ทางยุโรปนั้นจะเน้นที่ความคลาสิคมีรูปร่าง กระดูก กระโหลก ปาก ที่ใหญ่กว่า และสุนัขจะมีอารมณ์และความตื่นตัวมากกว่า พี่จี๊ปบอกว่าเฟรนช์บูลด๊อกของอเมริกาจะเน้นไปทางน่ารัก แต่ทางยุโรปจะดูสง่างาม โดยส่วนตัวแล้วพี่จี๊ปจะชื่นชอบเฟรนช์บูลด๊อกของทางยุโรปมากกว่า

ปัจจุบันในบ้านของพี่จี๊ปพยายามจะจำกัดจำนวนสุนัขในบ้านไว้ที่ประมาณ 10 ตัว เพื่อการดูแลที่ทั่วถึงและจะเน้นสุนัขที่มีความสมบูรณ์แบบมากกว่า โดยเน้นที่คุณภาพมากกว่าจำนวน สุนัขของทางฟาร์มกอลิล่าบูลเล่อร์ ได้ผ่านการประกวดมาอย่างมากมาย ซึ่งก่อนนี้พี่จี๊ปค่อนข้างจิงจังและเคร่งเครียดกับงานประกวดสุนัขมาก เอาสุนัขดีๆไปประกวดเสมอ แต่ในปัจจุบันทัศนคติของพี่จี๊ปได้เปลี่ยนไป ในการประกวดแต่ละครั้งพี่จี๊ปไม่คำนึงถึงผลแพ้ชนะเหมือนเช่นในอดีต แต่รู้สึกสนุกกับการประกวดสุนัขมากกว่า รู้สึกยินดีกับผู้ชนะเสมอ รู้สึกถึงมิตรภาพ รู้สึกถึงอีกโลกที่ทำให้เราได้มีความสุขและทำกิจกรรมกับสุนัขที่เราเลี้ยง

ล่าสุดพี่จี๊ปเล่าให้ฟังว่า ได้นำสุนัขไปประกวดที่ประเทศฟิลิปปินส์ แต่สิ่งที่พี่จี๊ปได้เรียนรู้จากการไปประกวดสุนัขครั้งนี้กลับไม่ใช่เรื่องราวในสนามประกวด แต่มันกลับอยู่ในระหว่างการเดินทางไปประกวดมากกว่า ในระหว่างการเดินทางสุนัขอยู่ภายในบ๊อกและวางอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่พี่จี๊ปนั่ง ตลอดระยะเวลาการเดินทางสองชั่วโมง สุนัขมองตาพี่จี๊ปตลอดเวลา ซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่รับรู้ได้ว่า มันรักเรามาก และมันทำให้พี่จี๊ปรู้สึกถึงความรับผิดชอบถึงชีวิตที่เราสร้างขึ้นมา ไม่ใช่แค่การบรีดสุนัขแล้วไปประกวดได้รางวัลแล้วภูมิใจเพียงแค่นั้น แต่มันคือการสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นมาและมันก็รักเรา มันจึงเป็นความรับผิดชอบและเป็นสิ่งดีๆ ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งมีคุณค่าทางจิตใจสำหรับพี่จิ๊บมาก

พี่จี๊ปได้พูดถึงสุนัขเด่นๆ ให้เราฟังถึงความเป็นมาเป็นไปทั้งหมด 5 ตัว ตัวแรกคือ Mr. Lover ซึ่งเป็นตัวที่ขึ้นปก Dog Company ในฉบับนี้ โดยปกติแล้วพี่จี๊ปชอบหมาสีพาย หรือสีขาวดำอยู่แล้ว และก็มีฟาร์มหนึ่งที่ผมติดตามผลงานมาตลอดชื่อ King Friend อยู่ที่อังกฤษ ซึ่งเค้ามีพ่อพันธุ์อยู่ตัวหนึ่งชื่อ Hollywood เป็นหมาขาวดำที่อยากได้ ลักษณะประมาณนี้  ปรากฏว่าเมื่อสองปีที่แล้วทางฟาร์มได้โพสรูปลูกหมาสีขาวดำ ซึ่งเมื่อได้เห็นก็รู้สึกชอบมาก ยิ่งเป็นลูกของ Hollywood ด้วย จึงรีบส่งข้อความไปเพื่อขอซื้อ ทางฟาร์มเค้าบอกว่าขอโทษด้วยนะ เค้าจะขอเก็บไว้ไม่ขาย  ผมก็ได้แต่รอต่อไปว่าอาจมีลูกของ Hollywood คอกใหม่ออกมาสีขาวดำๆ สวย แต่จริงๆ ผมก็อยากได้เจ้า Lover มากเนื่องจากแม่ของเค้าชื่อว่า “ไอ แอม อันดอลเรเบิล  เดอ รา พาลัว” เป็นหมาที่อารมณ์ดีมากและให้ลูกมาอารมณ์ Show ทุกตัว  ต่อมาทางฟาร์มก็ส่งตัวนี้มาประกวดที่ฟิลิปปินส์ แล้วเราก็คุยกับเพื่อนว่าเป็นไปได้ไหมที่จะขอซื้อหมาตัวนี้ให้ช่วยจีบให้หน่อย เพราะผมอยากได้ แต่จริงๆ แล้วผมกับ Breeder หรือ King Friend เราก็สนิทกันอยู่แล้ว  เพียงแต่เราไม่เคยซื้อหมาดีดีจากเค้าได้เลย ถ้าหากไม่มี Referent ที่ดีดี หรือคนที่แนะนำดีดี  ซึ่งเพื่อนผมก็คุยกับทางฟาร์มให้แล้ว และก็ให้ผมโทรหาทางฟาร์มเค้าในวันนั้น สุดท้ายทางฟาร์มก็ยอมขายให้  และผมก็รีบไปรับที่ฟิลิปปินส์เลยทันทีเพราะกลัวเค้าเปลี่ยนใจ เพราะมันเป็นหมาในอุดมคติ    

ตัวที่สองชื่อว่า “วิดซาร์ด” ซึ่งเป็นสุนัขนำเข้าที่พี่จี๊ปต้องใช้เวลาถึงสองปีเพื่อรอให้บรีดเดอร์ที่ต่างประเทศบรีดขึ้นมา เนื่องจากพี่จี๊ปไปเห็นสุนัขตัวที่เป็นพี่ของวิดซาร์ด แล้วชอบมาก จึงย้อนประวัติไปดูว่าพ่อแม่ของสุนัขตัวนี้อยู่ที่ไหนและใครเป็นคนบรีดสุนัขตัวนี้ เมื่อทราบว่าเป็นใคร พี่จี๊ปก็ได้ติดต่อไปเพื่อขอให้บรีดเดอร์ท่านนั้น บรีดสุนัขจากพ่อแม่ชุดเดิมบรีดขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลารอนานถึงสองปีจึงได้เจ้าวิดซาร์ดมาไว้ในครอบครอง 

 

ตัวที่สามชื่อว่า “เมอซี่” เป็นสุนัขเพศเมีย ที่มาจากฟาร์มเดียวกับ วิดซาร์ด ซึ่งแม่ของเมอซี่ เป็นสุนัขตัวเมียที่หน้าสวยมาก และพ่อของเมอซี่ก็เป็นสุนัขที่พี่จี๊ปมองว่าลงตัว จึงได้ขอซื้อมาพร้อมกันกับวิดซาร์ด  

 

ตัวที่สี่ ชื่อว่า “จูเนียร์” เป็นสุนัขที่ทางฟาร์มบรีดขึ้นมาเอง โดยพ่อของจูเนีย์ชื่อว่า “เบนลีย์” และจูเนียร์นี่แหละคือสุนัขที่พี่จี๊ปพาไปประกวดที่ฟิลิปปินส์  

 

และตัวสุดท้ายมีชื่อว่า “วาเลนไทน์” เป็นสุนัขเพศเมีย ที่ทางฟาร์มบรีดขึ้นมาเองเช่นกัน ซึ่งตั้งแต่ วาเลนไทน์ออกมาจากท้องวินาทีแรก พี่จี๊ปก็พูดว่า “ตัวนี้นอนกับ...(ข้าพเจ้า)....แน่นอน” เพราะวาเลนไทน์เป็นสุนัขที่น่ารักมากๆ และเป็นสุนัขที่พี่จี๊ปไม่คิดว่าจะบรีดสิ่งดีๆ ขนาดนี้ขึ้นมา ไม่คิดว่าจะได้สุนัขระดับนี้จากการบรีดของตัวเอง ซึ่งบรรดาบรีดเดอร์ด้วยกันจะรู้ว่าสุนัขเพศเมียดีๆ เขาจะไม่ขายกันและจะหายากมาก จึงเป็นความหวงแหนและภูมิใจอย่างมากของพี่จี๊ป

 

ในการเพาะพันธุ์ของทางฟาร์มนั้น ในช่วงเริ่มต้น ถือเป็นความโชคดีของทางฟาร์มที่ได้สุนัขเพศเมียมาจากทางฟาร์มนภาชัย และต้องขอขอบคุณทางฟาร์มนภาชัยที่ได้มอบสิ่งดีๆให้กับ กอริวล่าบูลเลอร์ ซึ่งหากไม่ได้สุนัขดีๆ จากทางฟาร์มนภาชัยในวันนั้นก็คงไม่มีกอริวล่าบูลเลอร์ในวันนี้ เพราะในอดีตนั้นพี่จี๊ปได้พยายามหาสุนัขเพศเมียดีๆ จากต่างประเทศแต่ไม่มีใครยอมขายกัน ควานหามาจนสุดท้ายก็ได้สุนัขจากฟาร์มนภาชัย ซึ่งเป็นสุนัขเฟรนช์บูลด๊อก เพศเมียที่สวยมากชื่อว่า “คริตตี้” จึงถือได้ว่าฟาร์มกอริวล่าบูลเลอร์ได้มีแม่พันธุ์คุณภาพมาตั้งแต่วันนั้น และหลังจากนั้นทางฟาร์มก็ได้นำเข้าพ่อพันธุ์คุณภาพมาจากต่างประเทศเพื่อมาทำการเพาะพันธุ์ เนื่องจากทางฟาร์มไม่ได้เน้นการเพาะพันธุ์สุนัขเป็นธุรกิจ นับจากวันที่เปิดฟาร์มมาทางฟาร์มมีการบรีดสุนัขมาเพียงสามคอกเท่านั้นเอง เน้นผสมพันธุ์ระหว่างพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ที่ดีที่สุดเท่านั้น จึงนับได้ว่าสุนัขของทางฟาร์มนั้นเป็นสุนัขที่มีคุณภาพมาก และปีนี้ทางฟาร์มมีแผนที่จะเพาะพันธุ์สุนัขให้มากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นความโชคดีของคนรักสุนัขสายพันธุ์เฟรนช์บูลด๊อกที่จะได้เห็นสุนัขสวยๆ และมีคุณภาพ จากทางฟาร์มกอริวล่าบูลเลอร์ 

 

และนี่คือเรื่องราวของฟาร์มสุนัขคุณภาพ กอริวล่าบูลเลอร์ ทาง Dog Company ต้องขอขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ เรื่องราวที่น่าสนใจ และหากทางฟาร์มมีการ Update ข้อมูลข่าวสารใหม่ เราจะติดตามข่าวสารจากทางฟาร์มมานำเสนอแก่เพื่อนๆ อย่างต่อเนื่องแน่นอนครับ

 

สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากจะเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เฟรนช์บูลด็อก และอยากติดตามเรื่องราวของฟาร์ม กอริวล่าบูลเลอร์สามารถเข้าไปหาข้อมูลและติดต่อสอบถามได้ที่ เฟสบุ๊ค : Gorillabuller Thailand เว็ปไซด์ www.gorillabuller.com หรือ โทรสอบถามได้ที่ 086-169-7466

 

bottom of page