top of page

DIGITAL MAGAZINE FOR DOG LOVERS

DOG DOMPANY

นิตยสารกึ่งรายการโทรทัศน์เพื่อคนรักสุนัข

คุยกับ “คุณพีระพงศ์  พิสิฐวุฒินันท์”

ว่าด้วยเรื่องการประกวดสุนัขในประเทศไทย

 

 

ในช่วง Dog Show ฉบับปฐมฤกษ์ จะขอนำเรื่องราวเกี่ยวกับการประกวดสุนัขที่มีมานานนับร้อยปี แต่ที่มาที่ไปของการประกวดสุนัขในประเทศไทยนั้นเป็นอย่างไร ในวันนี้ทาง Dog Company ได้มีโอกาศพูดคุยกับ คุณพีระพงศ์ พิสิฐวุฒินันท์ ผู้ดำรงตำแหน่ง กรรมการตัดสินสุนัขทุกสายพันธุ์ ในระดับนานาชาติ International All Breed Judge,A License จากสมาคมสุนัขโลก (FCI) ซึ่งคุณพีระพงศ์ พิสิฐวุฒินันท์หรือ พี่เอ๋ จะมาเล่าให้พวกเราฟังว่าจากอดีตสู่ปัจจุบันการประกวดสุนัขในบ้านเรามีการพัฒนามาอย่างไรบ้างเชิญติดตามกันเลยครับ

 

พี่เอ๋ได้เล่าให้เราฟังว่า กิจกรรมการประกวดสุนัขนั้นมีมากมายหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ประกวดสุนัขเชื่อฟังคำสั่ง ประกวดสุนัขอารักขา สุนัขดมกลิ่นหรือสุนัขล่าสัตว์ แต่กิจกรรมการประกวดสุนัขที่สร้างชื่อเสียงและเป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลกมากที่สุดคือการประกวดสุนัขสวยงาม  (Conformational Show) การประกวดสุนัขสวยงามนั่นเกิดขึ้นมาประมาณสองร้อยกว่าปี และจัดขึ้นครั้งแรกในประเทศอังกฤษ สำหรับประเทศไทยก็มีประวัติอันยาวนานหลายสิบปี โดยสมาคม The Kennel of Thailand หรือสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขประเทศไทย ซึ่งมีนายกสมาคมฯคือ คุณวนิดาบุษกรนันท์ มีความพยายามส่งเสริมและพัฒนาการประกวดสุนัขในประเทศไทยเป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้นและเป็นที่ยอมรับจากต่างชาติว่าการประกวดสุนัขในประเทศไทยมีมาตรฐานที่ไม่แตกต่างไปจากการประกวดสุนัขในต่างประเทศเลย ซึ่งทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าความนิยมในการประกวดสุนัขเพิ่มมากขึ้นอย่างมากมาย

 

ในอดีตจนถึงปัจจุบันมีการตั้งสมาคมเพื่อส่งเสริมการประกวดและพัฒนาสายพันธุ์สุนัขมาแล้วถึงสองสมาคม สมาคมแรกมีชื่อว่า “สมาคมผู้นิยมสุนัขแห่งประเทศไทย” และสมาคมที่สอง คือ “สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย)” ตั้งแต่ในอดีตทางสมาคมก็ได้มีการจัดการประกวดสุนัขอย่างต่อเนื่องมายาวนานกว่าสามสิบปี ในยุคแรกนั้นจะเป็นการจัดการประกวดสุนัขที่สนามหลวงบ้างสนามเสือป่าบ้าง และส่วนใหญ่จะเป็นการประกวดกลางแจ้ง ซึ่งการประกวดในสมัยแรกเริ่มนั้นไม่มีระบบระเบียบอะไรมากมายนักใครมีสุนัขสวยก็พามาที่สนามมาอวดกันมาประกวดประชันกัน มีการเลี้ยงสุนัขที่หลากหลายสายพันธุ์แต่จำนวนสุนัขยังไม่เยอะเท่ากับในปัจจุบันนี้ การประกวดก็จะไม่มีการแบ่งรุ่น จะเป็นการประกวดแบบรวมทุกสายพันธุ์แต่แบ่งตามขนาดของสุนัข เป็นลักษณะรวมพันธุ์ใหญ่ รวมพันธุ์เล็กมีการพัฒนามาเรื่อยๆสุนัขที่มาประกวดมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ สายพันธุ์สุนัขก็เพิ่มมากขึ้น และด้วยสภาพอากาศในประเทศไทยนั่นค่อนข้างร้อน ทำให้สุนัขที่มีขนยาว หรือสุนัขที่ต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ มีความลำบากในเรื่องการประกวดกลางแจ้ง จึงได้ปรับเปลี่ยนมาให้มีการประกวดในอาคารบ้างแล้วแต่โอกาส และเพื่อความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น จึงมีการพัฒนารูปแบบการประกวดเพื่อให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ มีการเก็บคะแนนสะสมเพื่อเป็นแชมป์ประเทศไทยซึ่งก็มีหลักการในการเก็บคะแนนนั้น เป็นระบบที่คล้ายคลึงกับประเทศอังกฤษ และได้มาตราฐานเป็นที่ยอมรับจากสมาคมสุนัขโลก ในปัจจุบันการประกวดสุนัขในประเทศไทยนั่น ได้เป็นที่ยอมรับจากต่างชาติว่ามีมาตรฐานอยู่ในระดับสากล

 

สำหรับหลักเกณฑ์ในการจัดงานประกวดสุนัขในอดีตนั้น ใครอยากจะจัดก็สามารถจัดได้ทำให้การประกวดสุนัขไม่มีมาตรฐานที่แน่นอน แต่ในปัจจุบันมีองค์กรที่มาดูแลการจัดประกวดเพื่อให้ได้มาตราฐานซึ่งก็คือ “สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย)” โดยมีการกำหนดความถี่ในการจัดการประกวด โดยเดือนหนึ่งจะมีการจัดประกวดประมาณสองครั้ง และผู้จัดการประกวดจำเป็นจะต้องยื่นเอกสารแจ้งความจำนงค์ขออนุญาตในการจัดการประกวดสุนัขล่วงหน้ารายปี แจ้งรายชื่อกรรมการ รูปแบบการจัดงานฯลฯ ซึ่งจะต้องไม่ขัดต่อกฎเกณฑ์ที่สมาคมโลกกำหนดเพื่อความเป็นมาตรฐานของงานประกวดสุนัขนั้นๆ เพราะในปัจจุบันมีชาวต่างชาติเชื่อมั่นในมาตรฐานการจัดงานประกวดในประเทศไทย มีการส่งสุนัขจากต่างชาติเข้ามาประกวดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นได้ว่าการประกวดสุนัขในบ้านเรานั้นได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติอย่างมากมาย ถ้าไม่นับเรื่องเงินทุนในการจัดการประกวดสุนัขแล้วประเทศไทยถือว่ามีการประกวดสุนัขที่ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับไม่แพ้ชาติใดในเอเชียเลยทีเดียว

 

การประกวดสุนัขที่ได้มาตรฐานนั้นทำให้สุนัขแต่ละตัวได้พิสูจน์ความสวยงาม และทำให้มูลค่าของตัวสุนัขเพิ่มสูงขึ้นทุกครั้งที่ผ่านการประกวด หรือแม้แต่ลูกสุนัขที่เกิดจากพ่อแม่พันธุ์ที่มีตำแหน่งในการประกวดติดตัว ก็เป็นการการันตีคุณภาพของสุนัขไปโดยปริยาย สุนัขระดับแชมป์เปี้ยนบางตัวในประเทศไทยมีมูลค่าถึงแปดล้านบาท ซึ่งเป็นสายพันธุ์ปอมเปอเรเนียนซึ่งเป็นราคาที่สูงที่สุดในประเทศไทยในปัจจุบันสุนัขในประเทศไทยสามารถไปประกวดที่ต่างประเทศได้แชมป์มาอย่างมากมาย เรามีแชมป์โลกสามสมัยพันธุ์ปอมเปอเรเนียน และยังมีสายพันธุ์ปั๊ก พันธุ์ยอร์คเชียเทอเรียสายพันธุ์อื่นๆ ที่สามารถไปสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอย่างมากมาย

 

และพี่เอ๋ได้ทิ้งท้ายถึง สุนัขประจำชาติไทยสองสายพันธุ์ ที่กำลังสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอยู่ในขณะนี้ก็คือ สายพันธุ์ไทยหลังอาน และ สายพันธุ์บางแก้ว ซึ่งตอนนี้กำลังดังมากในยุโรปและกำลังก้าวไปในอเมริกาแล้วก็ประเทศในเอเชีย สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานนั้นได้รับการยอมรับและจดทะเบียนเป็นสายพันธุ์มาตรฐานของโลก ซึ่งใช้เวลาในการรับรองยาวนานกว่ายี่สิบปี ซึ่งปัจจุบันก็ได้รับยอมรับว่าเป็นสุนัขพันธุ์แท้ของโลกแล้ว ส่วนสุนัขสายพันธุ์บางแก้ว ตอนนี้ทาง สมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) ก็มีความพยายามที่จะจดให้สุนัขสายพันธุ์บางแก้วให้เป็นที่ยอมรับและเป็นสายพันธุ์แท้ของโลกด้วยเช่นกัน

 

ต้องขอขอบคุณ คุณพีระพงศ์  พิสิฐวุฒินันท์ หรือ พี่เอ๋ สำหรับการพูดคุยในเรื่องราวการประกวดสุนัขทำให้เราได้รู้ความเป็นมาเป็นไปของการประกวดสุนัขในประเทศไทย และทำให้รู้ว่าว่าการประกวดสุนัขนั้นมิเพียงให้ความบันเทิง แต่ยังให้ความรู้เกี่ยวกับสุนัขในแง่มุมต่างๆ ทำให้เรารู้จักสุนัขสายพันธุ์แปลกๆ ที่เราอาจไม่เคยเห็น และที่สำคัญการประกวดสุนัขยังสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติอย่างมากมาย หากมีการประกวดสุนัขคราวหน้าเพื่อนๆ ชาว Dog Company อย่าลืมไปเที่ยวชมกันนะครับ

bottom of page